เปิดภารกิจ ‘มาริส อโบลตินส์’ นำทัพเมกาบางนาเดินหน้าต่อจิ๊กซอว์โครงการเมกาซิตี้มูลค่าหลายหมื่นล้าน ลุยกลยุทธ์ TENANT MIX ดึงแบรนด์ดังแม่เหล็กเสริมแกร่ง พร้อมอัปเกรด LOYALTY PROGRAM ชูประสบการณ์ช้อปปิ้งแตกต่างเหนือระดับ ประเดิมทุ่ม 200 ล้าน ฉลองธุรกิจครบรอบ 12 ปี
‘เมกาบางนา’ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคในรูปแบบซูเปอร์ริจินัลมอลล์ บนที่ดินกว่า 400 ไร่ ยึดหัวหาดให้บริการลูกค้าโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก บนทำเลยุทธศาสตร์ริมถนนบางนา-ตราด กม.8 พร้อมแผนพัฒนาระยะยาวแจ้งเกิดโครงการเมืองสมบูรณ์แบบ ‘เมกาซิตี้’ มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ที่ได้วางองค์ประกอบการไว้ เช่น โครงการที่พักอาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน ธีมปาร์ค และส่วนต่อขยายของศูนย์การค้า
ล่าสุด เมกาบางนา ได้ผู้นำทัพคนใหม่ ‘มาริส อโบลตินส์’ นั่งแท่นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ พร้อมทีมงานมืออาชีพที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนและต่อยอดการเป็น YOUR EVERYDAY MEETING PLACE ของศูนย์การค้าเมกาบางนา
มาริส อโบลตินส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ กล่าวถึงนโยบายและทิศทางบริหารธุรกิจว่า มุ่งผลักดัน ‘โครงการเมกาซิตี้’ โดยจะเร่งศึกษาศักยภาพในทุกมิติเพื่อพัฒนาพื้นที่
พร้อมแสวงหาความร่วมมือพันธมิตร นักลงทุน ร่วมพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ให้มีความครบครันที่สุดของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ภายใต้กลยุทธ์ ‘TENANT MIX’ สร้างความหลากหลายและครบครันของร้านค้าที่ตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของทุกคน ในทุกๆ วัน ตอกย้ำการเป็น YOUR EVERYDAY MEETING PLACE ด้วยการดึงแบรนด์ดัง ร้านอินเทรนด์ เข้ามาเป็นแม่เหล็ก เติมเต็มความต้องการลูกค้าเดิม พร้อมเพิ่มทราฟฟิกลูกค้าใหม่
‘มาริส อโบลตินส์’ เป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมค้าปลีกมานานกว่า 15 ปี มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การบริหารพื้นที่ ค้าปลีกและการวางกลยุทธ์ด้านการขยายธุรกิจ โดยผ่านการทำงานกับเชนห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกลุ่มประเทศยุโรป รับผิดชอบครอบคลุมทั้งด้านงานพัฒนาศูนย์การค้า การก่อสร้าง การบริหารร้านค้า ผู้เช่าและพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ รวมถึงมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับ IKEA ในยุโรปหลายประเทศ ซึ่งจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญดังกล่าวเชื่อมั่นว่าสามารถขับเคลื่อนเมกาบางนาได้ในทุกมิติ
“เมกาบางนา เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคอาเซียน การได้เข้ามาร่วมงานกับเมกาบางนาครั้งนี้ นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะนำประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์กว่า 15 ปี มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอกย้ำการเป็น YOUR EVERYDAY MEETING PLACE ของเมกาบางนา เพื่อรักษาลูกค้าเดิมควบคู่การขยายฐานลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น ด้วยการสร้างประสบการณ์และมอบข้อเสนอที่แตกต่าง แปลกใหม่ และเข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ทำให้เมกาบางนาเป็นมากกว่าแหล่งช้อปปิ้ง เรียกว่าเป็นการใช้ชีวิตสำหรับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกครอบครัว”
มาริส ย้ำว่า สำหรับโครงการเมกาซิตี้ นั้น มองว่ายังสามารถพัฒนาได้อีกมาก โดยหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการเมกาซิตี้ คือ การดึงสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนท์ชื่อดังที่เปิดมาแล้ว 70 แห่งทั่วโลก อย่าง TOPGOLF มาเปิดให้บริการเป็นสาขาแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตลอดจนส่วนต่อขยายของเมกาบางนา การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน รวมถึงการพัฒนาพื้นที่รีเทลเพิ่มเติม
“จากจุดแข็งของทำเลย่านบางนา-ตราดที่ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ การลงทุนจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จะทำให้ย่านบางนา-ตราด ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง”
การมีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่อย่าง ‘เมกาซิตี้’ จะสามารถรองรับความต้องการทั้งด้านที่อยู่อาศัยและการบริโภคได้เป็นอย่างดี ปัจจุบัน โครงการอยู่ระหว่างการขยายระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งได้มีแนวทางการพัฒนาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อผลักดันให้ ‘เมกาซิตี้’ เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์แบบของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก
ชูกลยุทธ์ TENANT MIX
กลยุทธ์แนวทางการบริหารศูนย์การค้าเมกาบางนานั้นจะเน้นจุดแข็งในด้าน ‘TENANT MIX’ มากขึ้น ซึ่ง เมกาบางนา เปิดให้บริการในปี 2555 ปัจจุบันมีผู้เข้ามาใช้บริการรวมกว่า 550 ล้านคน สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคอาเซียนได้อย่างชัดเจน
ขณะนี้เมกาบางนาที่มีพื้นที่ขายรวมกว่า 240,000 ตารางเมตร มีอัตราการเช่า (Occupancy Rate) 100% โดยผู้เช่าหลักที่เป็นแม่เหล็กสำคัญ ได้แก่ IKEA, CENTRAL @ MEGABANGNA, HOMEPRO, BIG C Extra, MEGA CINEPLEX และมีร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์บริการต่างๆ รวมทั้งหมดกว่า 900 ร้านค้า
“เมกาบางนา ยังมีศักยภาพในด้านการขยายพื้นที่ให้กับแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ต้องการมาเปิดสาขาเพื่อรองรับกำลังซื้อในย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก โดยจะดึงแบรนด์ดัง ร้านค้าที่อยู่ในกระแสได้รับความนิยม ร้านอาหาร ศูนย์บริการต่างๆ ที่ครอบคลุมในทุก CATEGORY เพื่อมาเสริมศักยภาพของเมกาบางนาให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจากกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้เมกาบางนาเป็นสวรรค์ของการช้อปปิ้งและการใช้ชีวิตที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่มเข้ามามากขึ้น”
ในปีนี้มีแบรนด์ที่เข้ามาเปิดสาขาแล้ว อาทิ NIKE FLAGSHIP STORE, H&M HOME, FAMTIME, LA MEOW BBQ & BISTRO และกำลังจะเปิดในเร็วๆ นี้ อาทิ POP MART , LONGINES, CARE BEAR CAFÉ’, NIKO AND…, LONG JOHN’S SILVER, BHC CHICKEN, SINDOSEGI และ EASY! BUDDY เป็นต้น
ยกระดับ LOYALTY PROGRAM สมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส ส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า
ทางด้าน ‘LOYALTY PROGRAM’ สำหรับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 360,000 คน โดยจากการรวบรวมข้อมูลในการเข้ามาใช้บริการและการเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงการรับสิทธิพิเศษต่างๆ นั้น สมาชิกต่างให้ความสนใจกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
โดยปีนี้มีแผนระดับสิทธิพิเศษให้สมาชิก ภายใต้แนวคิด THE ULTIMATE EXPERIENCE ที่จะมอบประสบการณ์และสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส ที่แตกต่างและเหนือกว่าเดิม อาทิ ที่จอดรถพิเศษ ส่วนลด บัตรกำนัล การเข้าร่วมกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ตรงกับความต้องการ ความชอบ ไลฟ์สไตล์ ของสมาชิก โดยจะมีการเปิดตัวโปรแกรมต่างๆ ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
ทุ่ม 200 ล้านลุยตลาด ประเดิมฉลองครบรอบ 12 ปี
ในด้านการตลาดนั้น ‘มาริส’ กล่าวว่า ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา เมกาบางนา สร้างความพิเศษให้เกิดขึ้นในทุกๆ วันของการเข้ามาใช้บริการผ่านการจัดแคมเปญการตลาดและกิจกรรมต่างๆ ส่งมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ
สำหรับปี 2567 วางงบประมาณทางการตลาด 200 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสแรกจัดแคมเปญทั้ง Seasonal Campaign และ Monthly Campaign มาตั้งแต่เทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน และสงกรานต์ รวมถึงการจัดกิจกรรมสำหรับคอมมูนิตี้ต่างๆ เช่น Mega Pet Day
และในเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นโอกาสครบรอบ 12 ปี ของเมกาบางนา จัดแคมเปญ 12th ANNIVERSARY 365 MEGA MOMENTS สานต่อกลยุทธ์ COLLABORATED EXPERIENCE ด้วยการร่วมกับศิลปินนักวาดภาพชื่อดัง JIRAYU KOO (จิรายุ คู) หรือ คุณจิรายุ คูอมรพัฒนะ ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ซึ่งเราได้นำผลงานมาต่อยอดสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้า ตั้งแต่การตกแต่งบรรยากาศของศูนย์การค้า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การจัดทำของสมนาคุณเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลคชั่น
นอกจากความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ยังได้มอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส ตลอดเดือนพฤษภาคม 2567 เมื่อใช้จ่ายภายในศูนย์ฯ ครบตามเงื่อนไข เฉพาะวันที่ 5 พฤษภาคม 2567 ซึ่งตรงกับวันเปิดให้บริการเป็นวันแรกของศูนย์การค้าเมกาบางนาในปี 2555 รับสิทธิ์พิเศษต่างๆ
เส้นทางธุรกิจ 12 ปีที่ผ่านมา ‘เมกาบางนา’ มีแนวคิดสำคัญ คือ We Create A Better Everyday Life for the Many People ที่มุ่งทำให้เมกาบางนา เป็นพื้นที่ที่จะยกระดับการใช้ชีวิตสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกคอมมูนิตี้ ในทุกๆวัน ซึ่งได้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
“เราจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาในทุกมิติ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ สังคม และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ภาคการค้าปลีกของไทยโดดเด่นและแตกต่างในระดับโลกต่อไป”